เปิดตัวใหม่ล่าสุด!  กับโช้คที่ได้รับการพัฒนาสูงสุด  232 ONE จาก DT Swiss นำเสนอความก้าวล้ำทางด้านเทคโนโลยีของโช้ค ได้อย่างเหนือชั้นที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยระบบการทำงานที่เต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยอาศัยหลักเกณฑ์ในเรื่องของประสิทธิภาพต่อน้ำหนัก (performance to weigh) ที่เอื้อความเหมาะสมและประโยชน์สูงสุดต่อความต้องการของนักปั่น โดยอาศัยผลลัพธ์จากการทดสอบและประสบการณ์โดยตรงจากนักกีฬามืออาชีพ

F 232 ONE

โดดเด่นด้วยเทคนิค topology-optimized ที่นำมาใช้ลดทอนน้ำหนักให้เบาลง ด้วยการฉลุลายลงบนตัว bridge ของโช้ค และเพิ่มความแข็งแกร่งเข้าไปแทนที่ โดยอาศัยความเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปตามหลักเกณฑ์มาตรฐานของอัตราค่าความแข็งแกร่งต่อน้ำหนัก (stiffness-to-weight ratio) ที่ช่วงยุบ 100-120 มม. ด้วยน้ำหนักเริ่มต้นที่ 1,480 กรัม ร่วมกับ LINEAIR spring ที่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของนักปั่น XC และความสามารถในการควบคุมความหน่วงของช่วงยุบได้ 3 โหมดในรูปแบบการใช้งานของ INCONTROL

TOPOLOGY OPTIMIZATION

F 232 ONE ได้ถูกสร้างมาตรฐานค่า stiffness-to weight ขึ้นใหม่ ด้วยการปรับโครงสร้างให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานให้มากที่สุด  โดยอาศัยการวิเคราะห์แบบ Topology Optimization ในการกำจัดวัสดุที่ไม่จำเป็นออก และปรับโครงร่างวัสดุในบริเวณที่ต้องรองรับน้ำหนักและแรงกดขึ้นใหม่  ทำให้ได้อัตราส่วนระหว่างความแข็งแกร่งและน้ำหนักที่สมบูรณ์แบบ ส่งผลต่อประสิทธิภาพด้านการใช้งานอย่างสูงสุด

BENCHMARK STIFFNESS TO WEIGHT

ในการประเมินมาตรฐานนี้ จำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบที่สำคัญอยู่ 2 สิ่งด้วยกัน คือเรื่องของแรงบิด (torsional) และ ความต้านแรงดัด (bending stiffness) เพื่อช่วยการันตีถึงประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมนี้ได้

โดยทั้งสองสิ่งจะส่งผลต่อการใช้งานดังนี้

-          ความแข็งต่อแรงบิด (torsional) : จะทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจถึงความเที่ยงตรงของตะเกียบ

-          ความต้านแรงดัด (Bending stiffness) : เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแกนโช้คมีความมั่นคง แข็งแรง ไม่มีการเอนเอียงแต่อย่างใด

ซึ่งความสมบูรณ์แบบของ 232 ONE นี้ถูกพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์โดยตรงของนักกีฬา และอาศัยข้อมูลที่ถูกรวบรวมได้จากการทดสอบในห้องทดลองและบนสนามจริง จึงกลายเป็นสุดยอดโช้คที่สมบูรณ์เพียบพร้อมที่สุด

(ON-THE-FLY DAMPING ADJUSTMENT)

Compression damping จะถูกกำหนดโดยปริมาณน้ำมันที่สามารถไหลไปยังช่องเล็กๆ ที่มีความแตกต่างกัน  ยิ่งช่องมีขนาดเล็กมากเท่าไหร่ แรงต้านการไหลของน้ำมันก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น

ทั้งนี้ระบบ damping  แบบ INCONTROL จะมาพร้อมความสามารถในการปรับ damping ได้สามแบบ ซึ่งจะทำให้เกิด Compression ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ ซึ่งทำได้โดยการเปิดและปิดการทำงานของช่องนั้นๆ

INCONTROL

OPEN MODE : การเปิดโหมด open น้ำมันจะไหลผ่านช่อง compression ด้วยความเร็วสูงและความเร็วต่ำ ในโหมดนี้จะมีการตอบสนองที่ไวจึงทำให้เกิดแรงฉุดมาก ดังนั้นจึงมีตัวเข็มปรับที่สามารถปิดช่อง LSC ได้เป็นระยะๆ ทั้งนี้  LSC ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อความรู้สึกที่แน่นกระชับ

DRIVE MODE : ในโหมด Drive ช่อง LSC จะถูกปิด และน้ำมันทั้งหมดจะไหลผ่านช่อง HSC ซึ่งแผ่นชิมวาวล์ของ HSC นั้นจะเปิดแรงบางอย่างในการทำให้ Compression damping สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียพลังงาน แต่จะรักษาแรงฉุดในขณะปั่นขึ้นเนินหิน หรือเส้นที่ทางวิบากที่ต้องอาศัยความสมบุกสมบันได้

LOCK MODE : เมื่อปรับมาที่โหมด Lock ตัวเลื่อนจะปิดกั้นช่องน้ำมัน LSC และ HSC ซึ่งเหมาะสำหรับการสปริ้นท์บน Track ที่ต้องอาศัยการส่งกำลังเป็นสำคัญ อีกทั้งยังมี ตัว Blow Off Valve ที่ช่วยป้องกันตัวนักขี่และอุปกรณ์จากเหตุการณ์ชนหรือปะทะโดยที่ไม่คาดคิดมาก่อน

CROSS-COUNTRY SPECIFIC SPRING CURVE

Lineair คือระบบ dual-air chamber ที่ถูกออกแบบทุกอย่างไว้ด้วยความลงตัว ไม่ว่าจะเป็นขนาดของท่ออากาศ,ตำแหน่งของ bypass  และลักษณะความโค้งของสปริงได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของนักปั่น XC  ทำให้ได้ breakaway force ที่ต่ำไว้สำหรับการฉุดดึง

ระบบ line Air ประกอบด้วย bypassที่ตั้งอยู่ในท่อเก็บอากาศ ซึ่ง bypass จะช่วยให้แรงดันที่อยู่ภายใน negative air

Chamber สูงกว่า positive air chamber ในขณะที่ตะเกียบยืดจนสุด ซึ่งนี่จะช่วยลด breakaway force

ด้วยขนาดของท่อเก็บอากาศ ที่ออกแบบมาให้เป็นแนวยาว แต่ด้วยคุณลักษณะของ flat spring curve ในช่วงยุบระยะกลาง ซึ่งมีช่องเล็กๆไว้กักเก็บลม ทำให้เมื่อส่งแรงกดลงเท่าไหร่ ยิ่งเด้งกลับขึ้นเท่านั้น จึงส่งผลให้สามารถลอยข้ามรากไม้ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังช่วยรักษาโมเมนตัมไว้อีกด้วย

ระบบ APT (Adaptable Progression Tune) ช่วยให้นักปั่นสามารถปรับระดับการเคลื่อนที่ของ air spring curve โดยการเพิ่มหรือลด จำนวน Spacer ในท่อเก็บอากาศของตะเกียบ สิ่งนี้จะช่วยให้สามารถปรับ spring curve หรือความนุ่ม ได้ตามสไตล์การปั่น หรือตามลักษณะสภาพเส้นทางในการปั่นได้