Easton EA90  *** กรุณาเช็คความยาวก่อนชำระเงินครับ ***

 

   สเต็มอลูมิเนียมระดับท๊อปสุดจากค่าย Easton ซึ่งถูกติดตั้งอยู่ภายในรถของโปรระดับโลกหลายๆทีม ด้วยความที่เป็นอลูมิเนียมทำให้มีคุณสมบัติแข็งแรง ในขณะเดียวกัน อลูมิเนียม EA90  (Super Hi-End) ที่ใช้วัสดุคุณภาพสูง น้ำหนักเบาที่สุด แข็งแรงที่สุด และเทคโนโลยี่ขั้นสูงสุดเท่าที่มีในโลกปัจจุบัน (Ultimate Level)  ทำให้เจ้าสเต็มอลูมิเนียม EA90 น้ำหนักเบาไม่น้อยหน้าสเต็มคาร์บอนเลย

 

    EASTON คือชื่อที่เป็นหนึ่งเดียวของท่ออลูมิเนียมที่นำมาทำอุปกรณ์กีฬาและโดยเฉพาะเฟรมจักรยานในระดับ Super Hi-End ที่ผู้ผลิตรถจักรยานแบรนด์ดังๆของโลกเลือกที่จะนำมาทำเป็นเฟรมของรถ กว่า 80 ปีของการพัฒนาวิจัยของวิศวกรชาวอเมริกัน ที่ EASTON ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1920 โดยนาย James Douglas Easton ในเมือง Watsonville รัฐคาลิฟอเนียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทำอุปกรณ์การยิงธนูขึ้มมาเป็นอย่างแรก ต่อมาในปี 1938 หลังจากที่ย้ายมาอยู่ที่ Los Angeles เขาได้นำเอาอลูมิเนียมมาผลิตเป็นลูกธนูออกขายเป็นครั้งแรกและประสบความสำเร็จอย่างมากมาย จนเข้าสู่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ต้องหยุดการผลิตไปชั่วคราวเนื่องความขาดแคลนอลูมิเนียม ที่ต้องนำไปผลิตเครื่องบินให้กับกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาในสมัยนั้น 

 

หลังจากที่สงครามยุติลงเขาได้กลับมาผลิตคันธนูและลูกธนูด้วยอลูมิเนียม อีกครั้งและกิจการได้เติบโตขยายออกไปอย่างรวดเร็ว และในปี 1960 Jim Easton บุตรชายคนโตของเขาผู้เป็นวิศวกรให้กับบริษัทผลิตเครื่องบินโบอิ้ง ได้กลับเข้ามาช่วยดูแลกิจการและได้ออกแบบอุปกรณ์สกีที่ทำจากอลูมิเนียมออกจำหน่ายในปี 1964 ต่อมาในปี 1967 ด้วยความเชี่ยวชาญในวัสดุอลูมิเนียม องค์การ "การบินและอวกาศของสหรัฐ" หรือ NASA ได้ให้ EASTON เป็นผู้ผลิตท่ออลูมิเนียมที่ใช้สำหรับยานอวกาศอพอลโล่ (Apollo) ที่ นีล อาร์มสตรอง ลงจอดบนดวงจันทร์เป็นครั้งแรก ทำให้ EASTON ได้ก้าวข้ามขึ้นมาเป็นผู้นำเทคโนโลยี่ท่ออลูมิเนียม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในปี 1969 ได้ผลิตไม้ตีเบสบอลด้วยอลูมิเนียม มาทดแทนไม้ตีที่ทำจากไม้ธรรมชาติ ขึ้นมาเป็นครั้งแรก ซึ่งในยุคนั้นทำให้ผู้คนตื่นเต้นกันมาก แม้ในระยะแรกๆอาจจะยังทำไม่ได้ดีเท่าที่ควร และไม้เบสบอลในรุ่นหลังๆ ก็ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นจนเป็นที่ยอมรับและใช้กันแพร่หลายจนกลายเป็นมาตรฐาน มาถึงทุกวันนี้ 

 

หลังจากที่ Jame Easton เสียชีวิตลงในปี 1972 และบุตรชาย Jim Easton ได้รับช่วงกิจการต่อและเขาได้ร่วมกับผู้ผลิตไม้เทนนิสชื่อดังของอเมริกา PRINCE พัฒนาและผลิตไม้เทนนิสอลูมิเนียมออกมาจำหน่ายแทนไม้เทนนิสที่ทำจากไม้มาแต่ดั้งเดิม ด้วยชื่อเสียงและคุณภาพของอลูมิเนียมที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง  ปี 1981 Easton ได้ผลิตไม้ตีสำหรับกีฬาฮอคกี้ และได้รับการรับรองจาก The National Hockey League ให้ใช้ในสนามแข่งขันได้ และในปี 1983 หลังจากที่ได้เข้าซื้อกิจการของ Hoyt Archery ผู้ผลิตธนูอีกรายของอเมริกาและ Curley-Bates ผู้จัดจำหน่ายไม้เบสบอล ทำให้ชื่อของ EASTON เป็นที่รู้จักมากขึ้นในต่างประเทศ และจากปี 1990 เป็นต้นมา EASTON ได้ขยายกิจการไปสู่การทำอุปกรณ์เรือใบและจักรยาน และได้ก่อตั้ง Easton Sport Lab ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนาและค้นหาเทคโนโลยี่ใหม่ๆ สำหรับการผลิตอุปกรณ์กีฬาของ EASTON   

 

หลังจากปี 1997 EASTON Sport Lab ได้ริเริ่มพัฒนาวัสดุอื่นๆเช่น Scandium และ  Carbon Fiber สำหรับอุปกรณ์กีฬาอย่างจริงจังและได้เริ่มนำมาใช้กับสินค้าของ Easton และได้พัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้นมาตลอด และเป็นผู้ผลิตรายแรกๆที่ใช้ Nano Technology กับวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์จนได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำของโลก

spec