เราอยากจะแนะนำให้คุณรู้จักกับจักรยานญี่ปุ่นที่มีคุณภาพสูงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จักรยานญี่ปุ่นเป็นยานพาหนะที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย เพราะมีรูปทรงสวยงาม สีสันสดใส และราคาไม่แพง แต่คุณรู้ไหมว่าจักรยานญี่ปุ่นที่เราใช้แล้วมาจากไหน? ในบทความนี้ เราจะบอกเล่าถึงประวัติของจักรยานญี่ปุ่น และวิธีการเลือกซื้อจักรยานญี่ปุ่นที่เหมาะสมกับคุณ
ประวัติของจักรยานญี่ปุ่น
จักรยานญี่ปุ่นเริ่มมีการผลิตในปี ค.ศ. 1873 โดยบริษัท Miyata Seisakusho ที่ก่อตั้งโดย Miyata Eisuke เป็นบริษัทแรกในญี่ปุ่นที่ผลิตจักรยานโดยใช้เหล็กเป็นวัสดุหลัก ในช่วงแรก บริษัท Miyata Seisakusho เน้นผลิตจักรยานสำหรับการใช้งานของทหาร แต่ในภายหลัง เมื่อจักรยานได้รับความนิยมในประชาชน บริษัท Miyata Seisakusho ก็เริ่มผลิตจักรยานสำหรับการขี่เพื่อสันทนาการและการแข่งขัน
ในปี ค.ศ. 1892 บริษัท Nihon Jitensha Shinkokai (NJS) เป็นองค์กรส่งเสริมการผลิตและการขับขี่จักรยานในญี่ปุ่นได้ถูกก่อตั้งขึ้น เพื่อส่งเสริมการพัฒนารถถีบให้มีคุณภาพสูงขึ้น NJS เป็นผู้กำหนดมาตรฐานการผลิตจักรยานแข่งขันแบบ Keirin (การแข่งขันจักรยานโดยใช้จักรยานไม่มีเกียร์) โดยบริษัทที่ผลิตจักรยาน Keirin ต้องได้รับการรับรองจาก NJS เพื่อให้ได้สติ๊กเกอร์ NJS บอกว่าผ่านมาตรฐาน
ในช่วงค.ศ. 1950-1970 เป็นช่วงที่จักรยานได้รับความสำคัญให้มีการผลิตและส่งออกไปยังต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบการขี่จักรยาน เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป บริษัทผู้ผลิตจักรยานใหญ่ๆ
ตามรายงานจากสมาคมจักรยานญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่นประมาณปี พ.ศ. 2565 มีจักรยานประมาณ 79.5 ล้านคัน นั่นหมายถึงการเพิ่มขึ้นประมาณ 1.3% จากปีก่อนหน้านี้ การเพิ่มจำนวนจักรยานนี้เป็นไปได้ด้วยหลายปัจจัย เช่น สถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลให้มีการขี่จักรยานเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการเดินทางและออกกำลังกาย นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้สนับสนุนการขี่จักรยานเพื่อลดมลพิษและปรับปรุงคุณภาพอากาศ
นี่คือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนจักรยานในประเทศญี่ปุ่น:
- ประเภทจักรยานที่ได้รับความนิยมที่สุดในญี่ปุ่นคือ "มาม่าชาริ" (mamachari) ซึ่งเป็นจักรยานสำหรับใช้ในการเดินทางทั่วไป มักมีตะกร้าและที่นั่งเด็กสูงสุดสองที่
- ครอบครัวญี่ปุ่นโดยเฉลี่ยเป็นเจ้าของจักรยาน 2.3 คัน
- แบรนด์จักรยานที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นคือ Giant, Bridgestone, และ Panasonic
- อุตสาหกรรมจักรยานในประเทศญี่ปุ่นมียอดขายประมาณ 110 พันล้านเยน (ประมาณ 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
- จักรยานเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมญี่ปุ่น มาอย่างยาวนาน
จักรยานมือสองคืออะไร?
จักรยานมือสองคือ จักรยานที่เคยถูกใช้งานมาแล้วโดยคนอื่นก่อนหน้านี้ มักเป็นการขายหรือโอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของจักรยานให้กับบุคคลอื่น จักรยานมือสองอาจมีการใช้งานหรือการเสื่อมสภาพบางส่วน แต่สามารถนำมาใช้ได้อย่างปกติ หากซื้อจักรยานมือสองให้สังเกตตรงกับสภาพของจักรยาน สภาพอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงความพร้อมในการใช้งาน จักรยานญี่ปุ่นส่วนมากแล้วจะมาจากการจอดรถในสถาณที่ห้ามจอด ทางเทศกิจในท้องที่นั้นๆ ก็จะเป็นผู้เก็บรวบรวมใส่รถขน ติดป้ายให้ไปไถ่ตามสถาณที่ที่ยก จากนั้นก็รอเวลาที่เจ้าของจักรยานมาไถ่ ถ้าเลยกำหนดก็นำออกประมูลเพราะว่าสถาณที่อาจไม่พอที่จะเก็บ
หาจักรยานมือสองในญี่ปุ่นได้ที่ไหน?
1. รถบรรทุกเก็บจักรยานที่ผิดกฎหมาย
2. จักรยานราชการที่ขโมยมา
3. การประมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ ราคาค่อนข้างถูกมาก แต่เป็นการประมูลแบบเหมาๆรวม อาจได้สินค้าที่มีคุณภาพดีและไม่ดีปนกัน ผู้นำเข้าในไทยใช้วิธีนี้เก็บรวบรวมใส่ตู้คอนเทนเนอร์และส่งออกจากญี่ปุ่นมายังประเทศไทย ราคาประมาณ 200-450 บาท/คัน (FOB)
4. ร้านค้าจำหน่ายจักรยานใช้แล้ว มีทั่วญี่ปุ่น สามารถเลือรุ่น สี สภาพจักรยานได้ แต่ราคาอาจแพงกว่าประมูลมากๆ ราคาประมาณ 2000-10000บาท/คัน
จักรยานมือสองญี่ปุ่นมีความนิยมสูงเนื่องจากเหตุผลหลายประการ:
1. คุณภาพสูง: จักรยานญี่ปุ่นมักมีคุณภาพสูงและการสร้างรูปที่ดี ผู้ผลิตญี่ปุ่นมุ่งมั่นในคุณภาพและการออกแบบที่ทันสมัย ซึ่งทำให้จักรยานมือสองญี่ปุ่นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการคุณภาพและความนุ่มนวลในการขี่จักรยาน
2. ราคาเหมาะสม: จักรยานมือสองญี่ปุ่นมักมีราคาที่เข้าถึงง่ายและเหมาะสมกับคุณภาพที่ได้รับ ผู้ซื้อสามารถหาจักรยานญี่ปุ่นมือสองที่มีคุณภาพดีในราคาที่ต้องการได้ง่าย
3. ความทนทาน: จักรยานญี่ปุ่นมีชื่อเสียงในเรื่องของความทนทานและความทนทานในการใช้งานในระยะยาว ซึ่งทำให้ผู้ซื้อมักได้รับความมั่นใจในคุณภาพและความทนทานของจักรยานมือสองญี่ปุ่น
4. ค่าความเป็นมาตรฐาน: สำหรับผู้ที่ต้องการรูปแบบและคุณสมบัติที่เป็นมาตรฐาน จักรยานมือสองญี่ปุ่นมักมีการออกแบบที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไป โดยมีคุณสมบัติที่ทันสมัยและความสมดุลในเรื่องของประสิทธิภาพและความสะดวกสบาย
5. ส่วนประกอบและอะไหล่ที่มีความพร้อม: จักรยานญี่ปุ่นมีการสนับสนุนตลอดจนอะไหล่และส่วนประกอบที่มีความพร้อมและสามารถหาได้ง่าย นั่นหมายความว่าผู้ใช้งานสามารถซ่อมแซมและปรับแต่งจักรยานได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น
เหล่าเหล่านี้ทำให้จักรยานมือสองญี่ปุ่นเป็นที่นิยมและเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการจักรยานที่มีคุณภาพและความนุ่มนวลในราคาที่เหมาะสม
การพัฒนาของจักรยานในประเทศญี่ปุ่น
การพัฒนาของจักรยานในประเทศญี่ปุ่นมีความสำคัญและเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยาวนาน นี่คือบางประวัติการพัฒนาของจักรยานในประเทศญี่ปุ่น:
1. การนำเข้าและอุตสาหกรรมจักรยาน: ในต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อการนำเข้าจักรยานจากต่างประเทศมีการเพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมจักรยานในญี่ปุ่นเริ่มเจริญขึ้น โรงงานผลิตจักรยานที่สร้างขึ้นในญี่ปุ่นเริ่มเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศ
2. การพัฒนาเทคโนโลยี: ในระหว่างทศวรรษที่ 20 และ 21 อุตสาหกรรมจักรยานญี่ปุ่นได้รับการพัฒนาทั้งในเรื่องของวัสดุและเทคโนโลยีการผลิต การใช้วัสดุที่เบาและแข็งแรง เช่น อลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยลดน้ำหนักของจักรยานและเพิ่มประสิทธิภาพในการปั่น
3. การออกแบบและความสะดวกสบาย: จักรยานญี่ปุ่นมีการออกแบบที่ใส่ใจถึงความสะดวกสบายของผู้ขี่ โดยมีการพัฒนาและปรับปรุงแบบที่ให้ความสนใจในรายละเอียด เช่น การปรับเสาทรงตัวเพื่อให้เหมาะสมกับความสูงของผู้ขี่และการออกแบบเฟรมที่ให้ความมั่นคงและความสมดุล
4. การยอมรับและการใช้: จักรยานเป็นยานพาหนะที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในประเทศญี่ปุ่น การใช้จักรยานเพื่อการเดินทางทั่วไป การออกกำลังกาย และการท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมในประเทศ นอกจากนี้ยังมีการสร้างสรรค์รูปแบบจักรยานที่เหมาะสมกับความต้องการและสไตล์ชีวิตของผู้ขี่ในประเทศญี่ปุ่น
การพัฒนาของจักรยานในประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในตัวอย่างการประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมรถยนต์ และมีผลกระทบในการใช้จักรยานและวัฒนธรรมของผู้คนในประเทศ
การส่งออกจักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วไปยังประเทศโลกที่สาม
การส่งออกจักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วไปยังประเทศอื่นเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วมีความต้องการสูงในหลายประเทศ เนื่องจากมีคุณภาพดีและราคาไม่แพงนัก มีหลายสาเหตุที่ทำให้จักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วมีความนิยมอย่างสูง ก่อนอื่น จักรยานญี่ปุ่นโด่งดังด้วยคุณภาพที่ดี ผู้ผลิตญี่ปุ่นมีประวัติศาสตร์ยาวนานในการผลิตจักรยานคุณภาพสูง และใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง ในทางที่สอง จักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วมักจะมีราคาไม่แพง เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ผลิตจักรยาน ซึ่งช่วยลดต้นทุนของจักรยานลง ในทางที่สาม จักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วมักอยู่ในสภาพดี นั่นเป็นเพราะคนญี่ปุ่นดูแลรักษาจักรยานของพวกเขาอย่างดี และพวกเขามักจะขายจักรยานเมื่อมีอายุเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น
การส่งออกจักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วไปยังประเทศอื่นเป็นสถานการณ์ที่เป็นการชนะทั้งสองฝ่ายสำหรับญี่ปุ่นและประเทศที่นำเข้าจักรยาน ญี่ปุ่นได้ประโยชน์จากการขายจักรยานและประเทศที่นำเข้าจักรยานได้รับประโยชน์จากคุณภาพดีและราคาถูกของจักรยาน
นี่คือบางประเทศที่นำเข้าจักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้ว:
- แอฟริกา
- เอเชีย
- อเมริกาใต้
- ยุโรป
การส่งออกจักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตและคาดว่าจะเติบโตต่อไปในอนาคต ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการขี่จักรยานทั่วโลก ร่วมกับคุณภาพดีและราคาถูกของจักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้ว จะนำมาสู่ความต้องการที่มากขึ้นสำหรับจักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วในอนาคต
นี่คือบางความท้าทายที่การส่งออกจักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วเผชิญอยู่:
1. การควบคุมคุณภาพ: การตรวจสอบคุณภาพของจักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วก่อนที่จะส่งออกเป็นสิ่งสำคัญ
2. การขนส่ง: การให้ความสำคัญในการขนส่งจักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วให้ปลอดภัยและมั่นคง โดยใช้บริษัทขนส่งที่มีเสียงดี
3. ศุลกากร: การปฏิบัติตามกฎหมายศุลกากรทั้งหมดในประเทศที่นำเข้าจักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้ว
โดยการทำงานร่วมกับตัวแทนศุลกากร
ไม่ว่าจะมีความท้าทายอย่างไร การส่งออกจักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตที่มีศักยภาพมาก คุณภาพดีและราคาถูกของจักรยานญี่ปุ่นที่ใช้แล้วทำให้เป็นตัวเลือกที่นิยมสำหรับคนทั่วโลก
ตลาดจักรยานใช้แล้วในประเทศไทย
ในปี 2022-2023 เป็นตลาดที่อาจจะไม่เจริญเติบโตอย่างมีชีวิตชีวา แต่ก็ยังมีจักรยานใช้แล้วหลากหลายรุ่นที่มีให้เลือกตามราคาที่หลากหลาย มีสถานที่หลายแห่งที่คุณสามารถซื้อจักรยานใช้แล้วได้ในประเทศไทย เช่น
หากคุณกำลังมองหาประเภทเฉพาะของจักรยานใช้แล้ว คุณสามารถทำการค้นหาออนไลน์หรือในส่วนประกาศจากท้องถิ่นของคุณได้ คุณยังสามารถไปที่ร้านจักรยานในพื้นที่ของคุณและดูว่าพวกเขามีจักรยานใช้แล้วในสต็อกหรือไม่
เมื่อคุณพบจักรยานใช้แล้วที่คุณสนใจ สิ่งสำคัญคือตรวจสอบด้วยความระมัดระวังก่อนที่คุณจะซื้อ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจักรยานอยู่ในสภาพที่ดีและว่าส่วนประกอบทั้งหมดทำงานได้ถูกต้อง คุณควรทดสอบขี่จักรยานเพื่อให้แน่ใจว่ามันพอดีกับคุณและว่าคุณรู้สึกสบายในการขี่
หากคุณพอใจกับจักรยานหลังจากการตรวจสอบของคุณ คุณสามารถเจรจาราคากับผู้ขายได้ หลังจากที่คุณตกลงราคากันแล้ว คุณสามารถทำการขายและเอาจักรยานใช้แล้วของคุณไปใช้งานได้
นี่คือบางเคล็ดลับสำหรับการซื้อจักรยานมือสองในประเทศไทย:
ข้อมูลอ้างอิง
https://tokyocheapo.com/lifestyle/buy-sell-used-bicycles-tokyo/
https://www.ts-export.com/page.php?page=about_bicycles