หากคุณเป็นสิงห์ปั่นสายบู๊  ผู้คลั่งไคล้การผจญภัยไปตามเส้นทางที่ท้าทายประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ  ENDURO 2-PLY ยางที่มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Graphene 2.0 วัสดุที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นเลเวลที่สอง ส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพของยาง ทั้งด้านความยืดหยุ่น ทนทาน และความสามารถในการเกาะถนนมากขึ้น ทั้งยังถูกนำมาผนึกกำลังร่วมกับส่วนผสมอีกสี่ชนิด(4compound – 4C) ที่ให้คุณประโยชน์ตามความจำเป็นในแต่ละส่วนที่แตกต่างบนหน้ายางเดียวกัน

(จากภาพด้านบน จะเห็นการแบ่งหน้ายางออกเป็น 4 ส่วน)

- สีส้ม : มีคุณสมบัติช่วยยึดดอกยางให้มีความแข็งแรง ไม่ฉีกขาดง่าย

- สีฟ้าอ่อน : เป็นส่วนเนื้อยางอ่อน ที่ให้ประสิทธิภาพด้านความยืดหยุ่น

- สีแดง : เป็นส่วนที่มีความแข็ง ลดแรงต้านการหมุน ส่งเสริมการขับเคลื่อนให้เกิดความเร็วสูงสุด

- สีน้ำเงิน : ส่งเสริมเรื่องการให้ตัวตามความขรุขระและช่วยในการยึดเกาะถนนในขณะเข้าโค้ง

ทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้ ENDURO 2-PLY  ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับเส้นทางที่ต้องใช้ความสมบุกสมบันโดยเฉพาะ แข็งแรงรองรับแรงกระแทกได้ดี สามารถช่วยให้การขับขี่ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นมั่นใจ  ด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างยาง MTB ให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักปั่น สำหรับ E-MTBs

- Graphene 2.0  + เทคโนโลยี 4c : ส่วนผสมที่สนองต่อการยึดเกาะถนน ลดแรงต้านการหมุน เพิ่มอายุการใช้งาน

- โครงไนลอน 120 TPI : น้ำหนักเบา  พร้อมประสิทธิภาพการปกป้องแก้มยางสูงสุด

- โครงสร้าง : เพิ่มประสิทธิภาพความทนทานสูงสุดด้วยการเสริมโครงยางถึงสองชั้น

- แผ่นรองขอบ APF : หนึ่งเดียวของยางจักรยานที่ช่วยเสริมการป้องกันแรงรอยรั่วจากขอบล้อกัดยางใน พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพที่ดีของไหล่ยาง

- ยางขอบพับ Aramid : ที่ให้ความแข็งแรงระดับสูง

TUBELESS READY  (TLR)  ยางเจเนอเรชันใหม่ที่นำเอาเทคโนโลยี Graphene 2.0 ตัวล่าสุดจาก Vittoria ที่ผ่านการคิดค้นและพัฒนามาใช้ ด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่ายางทั่วไป จึงทำให้ยางมีโครงสร้างที่แข็งแรง ทนต่อการสึกหรอและการบาดเจาะได้มากกว่า เพิ่มประสิทธิภาพการเร่งความเร็วสูงสุด ขอบยาง Zylon ให้ความเหนียวแน่น ทนทาน ส่งผลต่อการกักเก็บลมได้ยาวนานยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยหน้ายางที่นำเอาเทคโนโลยี 4 c เข้ามาเป็นส่วนผสม เพื่อมอบคุณประโยชน์ ในการยึดหน้ายางไม่ให้เปิดหรือหลุดออกไป, ทำความเร็วสูง, การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม และการเข้าโค้งที่นุ่มนวล ซึ่งคุณจะสามารถได้คุณสมบัติครบถึง 4 อย่างได้จากยางเพียงแค่ 1 เส้น 

- หน้ายาง : โครงสร้างแข็งแกร่ง ลดแรงต้านการหมุน ด้วยประสิทธิภาพของ Graphen 2.0 และ เทคโนโลยี 4c

- ผ้าใบเสริมหน้ายาง : เพื่อความทนทาน และการปกป้องที่ดีเยี่ยม

- เส้นใยคอตตอน :  ด้วยค่าความละเอียด 320 TPI เพิ่มประสิทธิภาพความนุ่มนวลและความเร็วสูงสุด พร้อมรับแรงกดในขณะวิ่งบนลู่ได้อย่างดี

- ขอบยาง Zylon : น้ำหนักเบา แน่นหนาพอดีกับขอบล้อ Clincher (ยางงัด)

ทำไมถึงต้องเป็นยางคอตตอน (Cotton) ?

โครงสร้างยางคอตตอน เป็นเอกลักษณ์ของ Vittoria ที่ให้คุณสมบัตินุ่มนวล ให้ตัวได้ดี (แตกต่างจากยาง Nylon)เก็บลมได้นานไม่เกิน 48 ชั่วโมง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการแข่งขัน เพราะเมื่อเกิดแรงสะเทือนจากการปั่นเท่าไหร่ คุณจะยิ่งเสียพละกำลังไปมากเท่านั้น ความนุ่มนวลส่วนนี้จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการลดแรงกระแทก ทำให้คุณสามารถปั่นไปได้ไกลมากขึ้น ซึ่งคุณจะสัมผัสความพิเศษที่นุ่มนวลนี้ได้จากยางคอตตอนเท่านั้น!

ยางนอกเสือหมอบ VITTORIA CORSA Graphene2.0 700x25c

อรรถประโยชน์

- โครงสร้างยาง Cotton Premium เป็นเอกลักษณ์ของ Vittoria ที่ให้คุณสมบัตินุ่มนวล ให้ตัวได้ดี ลดแรงกระแทก ทำให้คุณสามารถปั่นไปได้ไกลขึ้น ซึ่งความนุ่มนวลนี้คุณจะสัมผัสมันได้จากยาง Cotton เท่านั้น

- ยางที่มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Graphene 2.0 เพิ่มประสิทธิภาพของยางที่เหนือชั้นกว่ายางทั่วไป

- 4 Compound เป็นกระบวนการผลิต ที่ใช้วัสดุที่แตกต่างกัน 4 ชนิดในหน้ายางเดียวกัน ซึ่งช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพของยาง ทั้งด้านความยืดหยุ่น ทนทาน และความสามารถในการยึดเกาะถนนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

- ลดแรงต้านการหมุนของล้อน้อยลงถึง 19% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน แต่ยังประสิทธิภาพด้านความยืดหยุ่น ทนทานไว้ได้อย่างสมบูรณ์

Tire Configurations

Weight              :           255g.

Material            :           K 320 Corespun TPI

Discipline          :           Competition

Size                  :           700

Width               :           25C

Etrto                 :           25-28

Tire Build         :           Tubular

Color                :           Full Black

เพราะอะไรการที่ยางคอตตอน (Cotton) เก็บลมได้นานไม่เกิน 48 ชั่วโมง จึงเป็นเรื่องที่ดี?

โดยปกติการแข่งขันในแต่ละรอบจะใช้เวลาไม่เกิน 1 วัน ซึ่งหมายถึงเราจะใช้ยางไม่เกิน 12 ชั่วโมง ฉะนั้นสิ่งที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดก็คือ การที่ลมค่อยๆ ปล่อยออกมา จะช่วยสร้างความสมดุลให้ยางค่อยๆ เกิดความนุ่มนวลขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของยางคอตตอนที่เหมาะสำหรับการนำไปใช้ในการแข่งขัน แต่ไม่เหมาะกับการนำไปใช้งานในระยะยาว